ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคภาคครัวเรือนในพื้นที่ภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจ เดือนธันวาคม 2560
ศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ได้ดำเนินการจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในพื้นที่ภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจ ในเดือนธันวาคม 2560 โดยเก็บแบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนภาคครัวเรือน ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 420 ตัวอย่าง พบว่า เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 52.90 เพศชาย ร้อยละ 47.10 ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 25-34 ปี คิดเป็นร้อยละ 33.80 และมีระดับการศึกษาปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 31.20
ผลการสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคภาคครัวเรือนในพื้นที่ภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจ เดือนธันวาคม เปรียบเทียบ เดือนพฤศจิกายน และคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า
รายการข้อคำถาม | พฤศจิกายน | ธันวาคม | คาดการณ์ใน 3 เดือนข้างหน้า | ||||||
เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | |
ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | |
1. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม | 22.10 | 53.70 | 24.20 | 23.80 | 52.80 | 23.40 | 32.80 | 53.70 | 13.50 |
2. รายได้จากการทำงาน | 13.40 | 42.60 | 44.00 | 12.20 | 40.60 | 47.20 | 34.70 | 51.70 | 13.60 |
3. โอกาสในการหางานทำ/ได้งานใหม่ | 8.20 | 48.30 | 43.50 | 10.70 | 47.60 | 41.70 | 32.80 | 54.10 | 13.10 |
4. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน | 21.20 | 50.30 | 28.50 | 23.70 | 53.80 | 22.50 | 39.70 | 45.10 | 15.20 |
5. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า ได้แก่ โทรทัศน์ ตู้เย็น ไมโครเวฟ เครื่องเสียง พัดลม เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า ฯลฯ | 10.30 | 53.60 | 36.10 | 13.10 | 55.60 | 31.30 | 26.30 | 49.80 | 23.90 |
6. รายจ่ายที่เกี่ยวข้องด้านอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ ซื้อ ปรับปรุง ต่อเติม ซ่อมแซม บ้านและที่อยู่อาศัย | 11.60 | 49.30 | 39.10 | 13.40 | 46.10 | 40.50 | 29.40 | 50.30 | 20.30 |
7. รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว เช่น การเดินทาง ของฝาก ฯลฯ | 24.10 | 53.50 | 22.40 | 26.80 | 52.70 | 20.50 | 49.10 | 40.70 | 10.20 |
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคภาคครัวเรือนในพื้นที่ภาคใต้ เดือน ตุลาคม พฤศจิกายน และธันวาคม 2560
รายการข้อคำถาม | ตุลาคม | พฤศจิกายน | ธันวาคม |
1. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม | 50.70 | 48.95 | 50.20 |
2. รายได้จากการทำงาน | 40.55 | 34.70 | 32.50 |
3. โอกาสในการหางานทำ/ได้งานใหม่ | 32.95 | 32.35 | 34.50 |
4. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน | 50.95 | 46.35 | 50.60 |
5. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า ได้แก่ โทรทัศน์ ตู้เย็น ไมโครเวฟ เครื่องเสียง
พัดลม เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า ฯลฯ |
39.10 | 37.10 | 40.90 |
6. รายจ่ายที่เกี่ยวข้องด้านอสังหาฯ ได้แก่ ซื้อ ปรับปรุง ต่อเติม ซ่อมแซม บ้านและที่อยู่อาศัย | 33.45 | 36.25 | 36.45 |
7. รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ การเดินทาง ของฝาก ฯลฯ | 56.05 | 50.85 | 53.15 |
8. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม | 43.39 | 40.94 | 42.61 |
ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ รายงานผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคภาคครัวเรือนในพื้นที่ภาคใต้ เดือนธันวาคม พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนพฤศจิกายน ส่วนหนึ่งมาจากการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน และรายได้จากการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดยาวรวมทั้งวันหยุดปีใหม่ด้วย
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม โอกาสในการหางานทำ/ได้งานใหม่ รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า รายจ่ายที่เกี่ยวข้องด้านอสังหาฯ และรายจ่ายด้านการท่องเที่ยว เนื่องมาจากการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนที่เพิ่มขึ้น จากการจัดเลี้ยงฉลองปีใหม่ของหน่วยงานภาครัฐ บริษัทห้างร้านต่าง ๆ รวมทั้งรายจ่ายจากการท่องเที่ยวและเดินทางพักผ่อนกับครอบครัวในช่วงวันหยุดปีใหม่ซึ่งติดต่อกันหลายวันอีกด้วย
อย่างไรก็ตามรายได้จากการทำงาน มีความเชื่อมั่นลดลง เนื่องจากรายได้จากภาคเกษตรลดลง รวมทั้งราคาสินค้าเกษตร เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ก็มีแนวโน้มปรับตัวลดลง ซึ่งรัฐบาลได้ร่วมมือกับภาคเอกชนแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยออกมาตรการช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ให้ราคายางพาราเพิ่มขึ้นเป็น 60 บาทต่อกิโลกรัม โดยจะเริ่มใช้ในเดือนมกราคม 2561
ขณะที่ผลคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และรายได้จากการทำงานจะเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 32.80 และ 34.70 ตามลำดับ ส่วนความเชื่อมั่นต่อรายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน และรายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ในอีก 3 เดือนข้างหน้า จะเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 39.70 และ 49.10 ตามลำดับ
ปัจจัยที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่ามีผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันมากที่สุด คือ ค่าครองชีพ คิดเป็นร้อยละ 32.40 รองลงมา คือ หนี้สินครัวเรือน และราคาสินค้า คิดเป็นร้อยละ 28.20 และ 15.40 ตามลำดับ ขณะที่ปัญหาเร่งด่วนที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่ารัฐบาลควรให้ความช่วยเหลือเป็นอันดับแรก คือ ค่าครองชีพ รองลงมา คือ หนี้สินครัวเรือน และราคาสินค้า ตามลำดับ